“วันนี” ผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. ตรวจราชการโครงการ ”ระบบคลังหน่วยกิตมหาวิทยาลัยมหิดล” ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม

           21 กรกฎาคม 2568 ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ผตร.อว.) และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการภายใต้โครงการสำคัญตามนโยบาย โครงการระบบคลังหน่วยกิต มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University Credit Unit Credit Bank System : MU-CBS) เพื่อส่งเสริมการศึกษาแบบยืดหยุ่นและการเรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับระบบคลังหน่วยกิตแห่งชาติ (NCBS) โดยมี ศ.ดร.เภสัชกรเนติ สุขสมบูรณ์ รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษา พร้อมผู้บริหารและคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์นที รักษ์พลเมือง ชั้น 5 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม

          ในการนี้ ผตร.อว. ได้รับฟังรายงานสรุปการดำเนินโครงการระบบคลังหน่วยกิตมหาวิทยาลัยมหิดล (ระบบ MU-CBS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของมหาวิทยาลัยที่นำเทคโนโลยีการศึกษา e-Learning การดำเนินนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) เพื่อทดแทนการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การเรียนแบบยืดหยุ่น และการพัฒนาบทเรียนออนไลน์แบบ Micro-credential มาใช้ในการพัฒนาระบบ MU-CBS เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเก็บสะสมผลการเรียนในระบบดังกล่าวได้ อันเป็นการตอบสนองนโยบายของ อว. และตอบโจทย์การจัดอันดับของ Time Higher Education Rankings และ SDGs 4 : ด้านความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการออกแบบและพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยในระยะแรก เป็นการดำเนินการจัดการเรียนร่วม/เรียนล่วงหน้าเพื่อสะสมหน่วยกิตผ่านโครงการ Mahidol Apprenticeship Program Curriculum : MAP-C พ.ศ. 2559 และระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2560 ต่อมา มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าด้วยการจัดการศึกษาแบบยืดหยุ่น และระบบคลังหน่วยกิต พ.ศ. 2563 ผ่านการขึ้นทะเบียนดำเนินการคลังหน่วยกิตในระดับอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 และได้เปิดตัวระบบคลังหน่วยกิตมหาวิทยาลัยมหิดลและการนำเข้าข้อมูลระยะที่ 1 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันดำเนินการเปิดหลักสูตรและรายวิชาให้ผู้เรียนสะสมในระบบ MU-CBS จำนวน 460 รายวิชา จาก 105 หลักสูตร มีจำนวนผู้เรียนสะสม (จากแพลตฟอร์ม : MAP-C) จำนวน 6,636 คน โดยพบว่า ร้อยละ 84.5 ของผู้เรียน ได้โอนรายวิชาเพื่อขึ้นทะเบียนรับสะสมหน่วยกิตแล้ว

          ในโอกาสนี้ ผตร.อว. ได้กล่าวขอบคุณมหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้ให้ข้อมูลการดำเนินโครงการดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่สำคัญตามนโยบายของรัฐบาลและเป็นการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงของโลก และถือเป็นต้นแบบในการผลักดันการจัดการศึกษาในระบบคลังหน่วยกิตของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งได้ดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบคลังหน่วยกิตอย่างต่อเนื่องและถือเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในการพัฒนารายวิชาในหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน ควรพัฒนาหลักสูตรร่วมกับผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่ประสงค์ จะพัฒนากำลังคนของหน่วยงาน โดยแสวงหาความร่วมมือและเชื่อมโยงการจัดการศึกษาให้เข้ากับหลักสูตรระดับปริญญา (Degree) ของมหาวิทยาลัย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเก็บสะสมหน่วยกิตในระบบคลังหน่วยกิตและเทียบโอนหน่วยกิตเพื่อศึกษาในระบบปกติของหลักสูตรในระดับปริญญา (Degree) ได้ และควรพัฒนารายวิชาให้เชื่อมโยงกับมาตรฐานวิชาชีพของหน่วยงานที่รับรองมาตรฐาน เช่น สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เป็นต้น เพื่อให้สามารถรับรองระดับสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพดังกล่าวได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนและสอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงาน นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยควรพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถรองรับกับระบบคลังหน่วยกิตกลางของประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบกลาง
และคาดว่าจะให้มหาวิทยาลัยเชื่อมกับระบบกลางได้ประมาณปี 2569  ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากำลังคนของประเทศ

                                                                                      ข้อมูลข่าวโดย : กลุ่มตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม