“วันนี” ผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. ตรวจราชการโครงการ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กรุงเทพมหานคร

          4 สิงหาคม 2568 ดร.วันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ผตร.อว.) ตรวจราชการโครงการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่  1. โครงการการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC 2. โครงการไส้กรองโฟมยางพาราฆ่าเชื้อสำหรับหน้ากากเทอร์โมพลาสติก และ 3. โครงการต้นแบบระบบ ICT สำหรับบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์ขาเข้าของงานอ้อยรถตัด โดยมี รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และนักวิจัย เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูลผ่านระบบ Zoom Meeting

          ในการนี้ ผตร.อว. ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานโครงการการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ ซึ่ง มจธ. ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยกระดับโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 280 แห่ง ในพื้นที่ EEC (ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา) ให้มีกระบวนการจัดการลดการปล่อย Carbon ตลอดจนพัฒนากำลังคนเพื่อสร้าง Pathway ในการมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ร่วมกัน โดยมีการดำเนินการใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการให้บริการ Platform การบริหารจัดการ Carbon โดยนำข้อมูล Data Transfer   ที่จัดเก็บข้อมูลตาม Template ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) มาประมวลผล ด้านบริการให้คำปรึกษา Pool Service จากผู้เชี่ยวชาญ
ด้านต่างๆ เช่น Carbon Life Cycle Management, Energy Technology และ Environment and Climate Change Adaptation และด้านบริการ Training พัฒนากำลังคน (Upskill) เกี่ยวกับการจัดการ Carbon ในลักษณะรายวิชาย่อย (Micro-credit)ผ่าน Learning Platform ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบ One KMUTT ของ มจธ. สำหรับโครงการไส้กรองโฟมยางพาราฆ่าเชื้อสำหรับหน้ากากเทอร์โมพลาสติก มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโฟมยางพาราผสมสังกะสีออกไซด์ดัดแปร ที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ตามมาตรฐาน รวมถึง
การออกแบบและเตรียมโครงหน้ากากเทอร์โมพลาสติกสำหรับใส่ไส้กรองโฟมยางพารา โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลิตภัณฑ์ไส้กรองโฟมยางพาราที่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ 99.9% และนำกลับมาใช้ซ้ำได้หลายครั้ง โดยออกแบบพัฒนาหน้ากากต้นแบบที่เปลี่ยนไส้กรองให้สามารถใช้งานง่ายและสัมผัสผิวหน้าได้ พร้อมทั้งสวมใส่ได้สะดวกในทุกกลุ่มอาชีพ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. และได้มาตรฐาน อย. เรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของโครงการต้นแบบระบบ ICT สำหรับบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์ฯ เป็นโครงการต่อเนื่องที่ มจธ. โดยศูนย์ความเป็นเลิศโลจิสติกส์ (Center of Logistics Excellence) ร่วมกับ บมจ. มิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลอันดับหนึ่งของประเทศ พัฒนาระบบการจัดการ Value Chain ธุรกิจต่างๆ ในเครือมิตรผลร่วมกันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2547 ภายใต้โครงการศึกษาและพัฒนาต้นแบบศูนย์ควบคุมโลจิสติกส์สายงานอ้อย (อ้อยรถตัด) โครงการพัฒนาระบบ ICT โลจิสติกส์สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอล (วีแนส) โครงการศึกษาและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ขาเข้าอ้อยมัด และปัจจุบันโครงการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพระบบ Cane Logistics Phase ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2567 – 2569) ได้ผลลัพธ์เป็นระบบ Sugarcane Control System ที่นำเทคโนโลยี Telematics การออกแบบทางวิศวกรรมและการติดตั้งอุปกรณ์ GPS ในรถตัดอ้อยมาใช้ในการออกแบบระบบ Cane Logistics Monitoring ทำให้สามารถติดตามสถานะการตัดอ้อย ขนส่งอ้อย หีบอ้อย และนำเข้าอ้อยแบบทันเวลา (Real time) ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บริษัทเก็บเกี่ยวอ้อยได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 5 เท่าแล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานตัดอ้อย ทราบช่วงเวลาสำคัญต่อคุณภาพอ้อย (Cut to Crush Time) ทำให้ได้อ้อยคุณภาพดีมีค่าความหวานสูงเข้าสู่ระบบหีบอ้อยอย่างต่อเนื่อง สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเกษตรกรชาวไร่อ้อย จำนวน 22,679 ครัวเรือน และบมจ. มิตรผล เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,300 ล้านบาทต่อปี โดยเกษตรกรได้รับผลประโยชน์จากค่าความหวานที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 180 บาท/ไร่ ขณะที่บริษัทได้ปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2,000 บาท/ไร่ อีกทั้งสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาอ้อยก่อนการตัดอ้อยเทียบเท่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซต์จากรถยนต์เบนซิน จำนวน 3,500 คัน/ปี

          ในโอกาสนี้ ผตร.อว. ได้กล่าวขอบคุณ มจธ. ที่ได้ดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมนี้ได้มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนฯ ในระยะต่อไป โดยเห็นควรมีการขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังโรงงานอุตสาหกรรมนอกพื้นที่ EEC รวมถึงการพัฒนารายวิชาย่อยในโมดูล Carbon Life Cycle Management, Energy Technology และ Environment and Climate Change Adaptation เพื่อให้สามารถเก็บไว้ในระบบคลังหน่วยกิตของมหาวิทยาลัย
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าอบรม สำหรับโครงการไส้กรองโฟมยางพาราฆ่าเชื้อสำหรับหน้ากากเทอร์โมพลาสติก มีข้อเสนอแนะโดยเห็นควรออกแบบหน้ากาก 3D Printing ให้มีความหลากหลายและพัฒนาต่อยอดเพื่อนำไปสู่การวิจัยเชิงพาณิชย์ในอนาคต รวมถึงมีข้อเสนอแนะสำหรับโครงการต้นแบบระบบ ICT สำหรับบริหารจัดการกระบวนการโลจิสติกส์ขาเข้าของงานอ้อยรถตัด โดยเห็นควรขยายแนวคิดและประสานความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนการวิจัยดังกล่าวไปยังพื้นที่อื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนต่อไป

                                                                ข้อมูลข่าวโดย : กลุ่มตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม